Page 13 - ข่าวสารแพทย์นาวีฉบับเดือน กรกฎาคม ๒๕๖๖
P. 13

ข่าวสารแพทย์นาวี  : Naval  Medical  Newsletter



                     ๑.๒ ตุ่มน�้าแตกเป็นแผลในเยื่อบุ
                          ใช้น�้าเกลืออมกลั้วปากบ่อยๆ  หลีกเลี่ยง การใช้น�้ายาบ้วนปากหรือ
          น�้ายาฆ่าเชื้อที่เข้มข้น หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสจัด และการแปรงฟันรุนแรง

                   ๒. การลดการสร้างโปรตีน immunoglobulin ที่ผิดปกติ โดยใช้ยากดภูมิคุ้มกัน
          และยาลดการอักเสบต่างๆ รวมถึงการรักษาภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากตัวโรค ไม่ว่าจะเป็น
          การติดเชื้อ หรือการเกิดแผลพุพองตามเยื่อบุต่างๆ
                 โดยพิจารณาเลือกการรักษาด้วยยากดภูมิต่างๆ ดังต่อไปนี้

                         ๑. ยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์
                                   การรับประทานยาคอร์ติโคสเตียรอยด์จ�าเป็นต้องใช้ในปริมาณสูงและใช้เป็นระยะเวลานาน โดยพิจารณาปรับลด
          ขนาดยาลงอย่างช้าๆ จนกว่าจะควบคุมโรคให้สงบได้ อาจพิจารณาฉีดยาคอร์ติโตสเตียรอยด์เป็นช่วงสั้นๆ ก่อนในช่วงแรก
          ในกรณีที่โรคในเยื่อบุเป็นรุนแรงจนไม่สามารถรับประทานยาได้

                         ๒.     ยากดภูมิ immunosuppressive drugs (cytotoxic drugs) พิจารณาให้ร่วมกับยากลุ่มคอร์ติโคเตียรอยด์
          เพื่อให้สามารถลดปริมาณยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ลงได้ อาจพิจารณาให้กินในระยะเวลานาน และค่อยๆ ลดลงอย่างช้าๆ เมื่อโรคสงบ
          ยาที่ได้ผลดีได้แก่ azathioprine และ mycophenolate mofetil
                         ๓. ยาฉีดชีวภาพ biologics agent

                 เนื่องจากปัจจุบันได้มีการน�ายาในกลุ่ม biologics agents มาใช้รักษาโรคที่เกิดจากความผิดปกติทางภูมิคุ้มกันมากขึ้น เนื่องจาก
          สามารถออกฤทธิ์ได้ค่อนข้างจ�าเพาะ และเกิดผลข้างเคียงน้อยเมื่อเทียบกับยากดภูมิแบบมาตรฐานที่มีความจ�าเพาะเจาะจงน้อยกว่า
          ยาในกลุ่ม biologic agents ที่ใช้ได้ผลดีและได้รับการรับรองโดย FDA ในโรค pemphigus คือ Rituximab (anti-CD20
          monoclonal antibody)  ซึ่งทางกรมบัญชีกลางสามารถอนุมัติให้เบิกจ่ายได้ หากผู้ป่วยมีข้อบ่งชี้ และเข้าเกณฑ์การเบิกจ่าย

          ตามแนวทางหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลส�าหรับผู้ป่วยโรคผิวหนังเรื้อรัง (Dermatology Disease Prior Authorization
          : DDPA)
                 นอกเหนือจากการดูแลแผลพุพอง และการใช้ยากดภูมิแล้ว ผู้ป่วยควรปฏิบัติตัวตามข้อแนะน�าเพื่อให้ได้ผลกการรักษาที่ดี
          และลดภาวะแทรกซ้อนจากการรักษาและการก�าเริบของโรค ดังข้อแนะน�าต่อไปนี้

                   ๑. หลีกเลี่ยงการไปอยู่ในสถานที่แออัด และหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคติดเชื้อ
                   ๒. ไม่รับประทานอาหารสุกๆ ดิบๆ หรือ อาหารไม่สะอาด
                   ๓. ควรพักผ่อนให้เพียงพอ ออกก�าลังกายสม�่าเสมอ และหลีกเลี่ยงความเครียด
                   ๔. หากมีอาการที่บ่งบอกถึงภาวะติดเชื้อ เช่น ไข้สูง หนาวสั่น ปัสสาวะแสบขัด ไอเสมหะ แผลพุพองมีตุ่มหนองหรือ

          ส่งกลิ่นเหม็น แนะน�าให้รีบไปพบแพทย์
                   ๕. ไม่แนะน�าให้ตั้งครรภ์จนกว่าโรคจะสงบ เนื่องจากยากดภูมิมีผลข้างเคียงต่อทารกในครรภ์ หากมีแผนจะตั้งครรภ์
          ควรปรึกษาแพทย์
                   ๖. หากเกิดความผิดปกติหลังได้รักยากดภูมิ เช่น ถ่ายด�า อาเจียนเป็นเลือด อ่อนเพลียมาก ไข้ ตัวตาเหลือง หรือผื่นผิวหนังก�าเริบ

          แนะน�าให้รีบไปพบแพทย์















                                  (A)                    (B)                      (C)                     (D)
               ภาพลักษณะรอยโรคของตุ่มน�้าพองแตกง่าย (flaccid bullae) รอยถลอก (abrasion) และแผลตกสะเก็ด (crusted patch) ที่ล�าตัว (A,B) และ
               หนังศีรษะ (C) และแผลแตกถลอกที่กระพุ้งแก้มและเพดานอ่อนในช่องปาก (D)

                                              ข่าวสารแพทย์นาวี  ปีที่ ๖๕ เล่มที่  ๗  เดือน กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๖   หน้า ๙
   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17   18